top of page
งานเว็บทุกปัญหาผิวให้เเฮวอลดูเเลคุณ-18-8-2023.png

          โบท็อก คือ ชื่อทางการค้าของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม โบท็อกถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ลดการขยับของกล้ามเนื้อ ช่วยลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้าและทำให้ผิวเต่งตึงได้ค่ะ

1.โบท็อกซ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

          โบท็อกซ์จะมีอายุประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆของแต่ละบุคคล เช่นคนที่ชอบแสดงสีหน้าด้วยการยักคิ้วหรือขมวดคิ้วบ่อยๆก็จะส่งผลให้ริ้วรอยในบริเวณดังกล่าวกลับมาได้เร็วกว่าคนที่ไม่ค่อยแสดงสีหน้า และการดูแลตัวเองหลังฉีด เช่น การหลีกเลี่ยงเลเซอร์, ทรีตเมนท์, อบซาวน่าหรือความร้อนต่างๆ

2. ระยะเวลาในการเห็นผล 

          จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ใน 1-4 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่เมื่อครบ 1 เดือน

155407_0.jpg
155408_0.jpg
155493_0.jpg

3. ก่อนฉีดโบท็อกควรเตรียมตัวอย่างไร ?

          1. เลือกใช้โบท็อกแท้เท่านั้น

          2. ก่อนฉีดควรให้แพทย์ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป

          3. ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์

          4. ไม่ควรฉีดโบท็อกเกิน 300 ยูนิต ต่อครั้ง

          5. ระหว่างการฉีดควรประคบด้วยความเย็น เพื่อลดการไหลเวียนของเส้นเลือดรอบ ๆ

4. หลังฉีดโบท็อกควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

          1. หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง

          2. งดนอนราบ 3 ชม.

          3. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง

          4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู หรืออาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ

          5. หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า ควรงด 2 สัปดาห์หลังทำ

155492_0.jpg

5. คำถามที่พบบ่อย

                    5.1 ทำไมฉีดโบท็อกซ์ไม่เห็นผล

          สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการใช้โบท็อกซ์ปลอม หรือโบท็อกซ์หิ้วที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งหลังจากฉีดครั้งแรกไป ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีเท่าที่ควร และผลลัพธ์จะเริ่มได้ผลลดน้อยลง ในครั้งต่อๆไป เพราะร่างกายของคนเรา สร้างภูมิต้านทานต่อตัวยามากยิ่งขึ้น

                  5.2 การดื้อโบท็อกซ์คืออะไร

          “ดื้อโบท็อกซ์” อาการนี้หมายถึง การฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผลลัพธ์ โดยมีสาเหตุเนื่องมาจากโปรตีนในสารโบท็อกซ์นั้นมีหลายชนิด ซึ่งเมื่อฉีดเข้าร่างกายไปแล้ว ร่างกายของผู้ฉีดบางรายจะสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาเพื่อต่อต้านสารโปรตีนดังกล่าว ทำให้การออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ไม่เห็นผลเท่าที่ต้องการ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการดื้อโบท็อกซ์ขึ้น ได้แก่

                  การใช้โบท็อกซ์ในปริมาณสูงเกินไป

                  การฉีดโบท็อกซ์ถี่เกินไป

                  การฉีดโบท็อกซ์ที่ไม่ได้คุณภาพ หรือโบท็อกซ์หิ้ว เป็นต้น

          ดังนั้น ผู้เข้ารับบริการจึงควรฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่น้อย และไม่ควรฉีดเกินปริมาณสูงสุดที่กำหนดให้ฉีดได้ นอกจากนี้การฉีดแต่ละครั้งยังควรห่างกันมากกว่า 12 สัปดาห์ด้วย ไม่ควรใช้จำนวนยูนิตในแต่ละครั้งเกิน 300 ยูนิต

bottom of page